กลไกหลายอย่างได้รับการสนับสนุนสำหรับนำมาใช้ในการพัฒนาเพื่อจัดลำดับความสำคัญของการอนุรักษ์หรือประเมินความเพียงพอของการคุ้มครองชนิดพันธุ์ แต่ตัวบ่งชี้ทาง Taxa ใช้เป็นตัวแทนความรู้ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นของรูปแบบความหลากหลายทางชีวภาพและเป็นวิธีการที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด (Rodrigues and Brooks, 2007) โดยทั่วไปการจัดลำดับความสำคัญจะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของพื้นที่ (Charismatic) และชนิดพันธุ์ที่พบได้ง่าย เช่น เสือ (Smith et al., 2012) อย่างไรก็ตามการวิเคราะห์เพื่อจัดลำดับความสำคัญเชิงพื้นที่เพียงชนิดเดียว อาจจะแสดงการเป็นตัวแทนของความหลากหลายทางชีวภาพที่ต่ำ ดังนั้น วิธีการในการสำรวจรูปแบบความหลากชนิดและพัฒนากลยุทธ์ในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพจะมีประสิทธิภาพต่อการดำรงชีวิตในระยะยาวของชนิดพันธุ์ที่หลากหลาย วิธีการที่เป็นไปได้คือการเปรียบเทียบการกระจายและรวมเข้ากับข้อมูลสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อแสดงให้เห็นช่วงชีวิตของชนิดนั้นๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ประเทศไทยมีการสำรวจความหลากหลายทางพรรณพฤกษชาติมีพืชที่มีท่อลำเลียง (vascular plant) ไม่น้อยกว่า 10,000 ชนิด จากประมาณ 275 วงศ์ ของพืชมีเมล็ด (spermatophytes) และประมาณ 36 วงศ์ ของพืชกลุ่มเฟิน (Pteridophytes) ในปัจจุบันพื้นที่ป่าธรรมชาติของประเทศเหลือประมาณ 25 % ซึ่งอดีตพื้นที่ป่าส่วนใหญ่ถูกเปลี่ยนสภาพไปเป็นป่าเสื่อมโทรม เนื่องจากการพัฒนาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย และพื้นที่กสิกรรม ซึ่งเป็นภัยคุกคามสำหรับพรรณพฤกษชาติ
ในปี 2006 ประเทศไทยได้ประเมินสถานภาพพรรณพฤกษชาติโดยอ้างอิงเกณฑ์ของ IUCN Red List Categories ของพืชกลุ่มมีท่อลำเลียง โดยพืชกลุ่มเฟิน 17 วงศ์ 42 ชนิด กลุ่มพืชเมล็ดเปลือย 5 วงศ์ 27 ชนิด พืชใบเลี้ยงเดี่ยว 19 วงศ์ 417 ชนิด และพืชใบเลี้ยงคู่ 94 วงศ์ 921 ชนิด โดยพบว่ามีพืชถิ่นเดียวจำนวน 764 ชนิด พืชหายากจำนวน 880 ชนิด และมีเกณฑ์มีแนวโน้มเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ (Vulnerable) จำนวน 363 ชนิด และเกณฑ์ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) จำนวน 142 ชนิด (Santisuk et al., 2006) ต่อมา 2015 ใช้โปรแกรม GeoCAT คำนวณจากค่า Extent of Occurrence (EOO) และ Area of Occupancy (AOO) พบว่า จำนวนชนิดของพรรณพฤกษชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นในกลุ่มเสี่ยงถูกคุกคาม คือ 18 ชนิด ถูกจัดอยู่ในเกณฑ์เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างยิ่ง (Critically endangered) เกณฑ์ใกล้สูญพันธุ์ จำนวน 207 ชนิด และเกณฑ์มีแนวโน้มเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ จำนวน 715 ชนิด (Forest Herbarium Department of National Parks, Wildlife and Plant Conservation, 2015) นอกจากนั้นพบว่าพืชในวงศ์กล้วยไม้ (Orchidaceae) วงศ์ปาล์ม (Arecaceae) และสกุลเฟินต้น (Cyathea Sm.) มีการประเมินสถานภาพของพืชกลุ่มนี้ค่อนข้างน้อย
การลดลงของประชากร (Population Reduction) ชนิดพันธุ์ที่มีการลดลงของประชากรในช่วงเวลา 10 ปี หรือ 3 generation (แล้วแต่ระยะใดยาวกว่า) โดยพิจารณาจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น การล่า การสูญเสียถิ่นอาศัย ฯลฯ
| หมวดหมู่ | อัตราการลดลงของประชากร |
|---|---|
| CR (ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง) | ลดลง ≥ 90% |
| EN (ใกล้สูญพันธุ์) | ลดลง ≥ 70% |
| VU (แนวโน้มใกล้สูญพันธุ์) | ลดลง ≥ 50% |
| หมวดหมู่ | AOO (พื้นที่ครอบครอง) หรือ EOO (พื้นที่กระจายพันธุ์) |
|---|---|
| CR(ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง) | EOO < 100 km² หรือ AOO < 10 km² ≥ |
| EN (ใกล้สูญพันธุ์) | EOO < 5,000 km² หรือ AOO < 500 km² |
| VU (แนวโน้มใกล้สูญพันธุ์) | EOO < 20,000 km² หรือ AOO < 2,000 km² |
ขนาดประชากรและแนวโน้มลดลง (Small Population Size and Decline)
| หมวดหมู่ | ขนาดประชากร | การลดลงต่อเนื่อง |
|---|---|---|
| CR(ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง) | น้อยกว่า 250 ตัว | ลดลง ≥ 25% ภายใน 3 ปี หรือ 1 generation |
| EN (ใกล้สูญพันธุ์) | น้อยกว่า 2,500 ตัว | ลดลง ≥ 20% ภายใน 5 ปี หรือ 2 generation |
| VU (แนวโน้มใกล้สูญพันธุ์) | น้อยกว่า 10,000 ตัว | ลดลง ≥ 10% ภายใน 10 ปี หรือ 3 generation |
ประชากรมีขนาดเล็กมาก (Very Small or Restricted Population)
| หมวดหมู่ | ขนาดประชากร |
|---|---|
| CR(ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง) | < 50 ตัว |
| EN (ใกล้สูญพันธุ์) | < 250 ตัว |
| VU (แนวโน้มใกล้สูญพันธุ์) | < 1,000 ตัว หรือพื้นที่จำกัดและเสี่ยงสูงต่อภัยเฉียบพลัน |
ความน่าจะเป็นในการสูญพันธุ์ (Quantitative Analysis) เช่น ใช้แบบจำลองเชิงสถิติคำนวณความเสี่ยงสูญพันธุ์
| หมวดหมู่ | โอกาสสูญพันธุ์ในช่วงเวลา |
|---|---|
| CR(ใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง) | ≥ 50% ภายใน 10 ปี หรือ 3 generation |
| EN (ใกล้สูญพันธุ์) | ≥ 20% ภายใน 20 ปี หรือ 5 generation |
| VU (แนวโน้มใกล้สูญพันธุ์) | ≥ 10% ภายใน 100 ปี |